หน้าหลัก บทความทั่วไป

การสร้างแพลตฟอร์ม Mello

970 views

การสร้างแพลตฟอร์ม Mello

การสร้างแพลตฟอร์ม Mello ศึกษาก้าวถัดไปของช่อง 3 กับการสร้างแพลตฟอร์ม Mello เจาะตลาดคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ หลายคนคงได้ยินชื่อ Mello มาระยะหนึ่ง เพราะเป็นช่องทางเดียวที่จะรับชม “บุพเพสันนิวาส” แบบรีรันได้อย่างถูกต้อง และเร็วที่สุดในตอนนี้ แต่จริงๆ แล้วแพลตฟอร์มดังกล่าวไม่ได้เป็นแค่พื้นที่รีรันละคร แต่มันคืออะไรที่มากกว่านั้น

ปั้นสื่อบันเทิงน้ำดีขยายฐาน Millennial

ด้วยชื่อช่อง 3 ก็การันตีคุณภาพของละคร และรายการต่างๆ ได้ระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันธุรกิจทีวีดิจิทัลแข่งขันกันสูง ประกอบกับผู้บริโภคก็มีช่องทาง Online เป็นทางเลือกใหม่ในการรับชมสื่อต่างๆ เพื่อความผ่อนคลาย ทำให้แค่ Content ดีใช่ว่าจะรักษาการเจริญเติบโตของธุรกิจไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ได้รับชมโทรทัศน์เป็นหลัก

จึงไม่แปลกที่ช่อง 3 ต้องปรับตัวเหมือนกับสื่อทีวีดิจิทัลอื่นๆ เพื่ออยู่รอดในสมรภูมิสื่อด้วยการสร้างแพลตฟอร์ม Online เป็นของตัวเอง ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะทำมานานแล้ว แต่นั่นอาจจะเป็นรูปแบบเก่าที่ไม่ตอบโจทย์คนรุ่นปัจจุบัน ดังนั้งช่อง 3 จึงฟอร์มทีมดิจิทัลใหม่มาตั้งแต่ปีก่อน เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ขึ้นมา

สำหรับชื่อของแพลตฟอร์มนั้นคือ Mello มีที่มาจากคำว่า Mellow ที่หมายถึงความกลมกล่อม เพราะรวมอารมณ์ต่างๆ จากรายการ และละครเอาไว้มากมาย ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ผู้ชมยุคใหม่ โดยเฉพาะกับ Millennial ซึ่งมี “สุธิดา มาไลยพันธุ์” เป็นคนขับเคลื่อนภายใต้ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยงานธุรกิจดิจิทัลของบริษัท บีอีซีไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

รับ “บุพเพสันนิวาส” ช่วยบูมแพลตฟอร์ม

“ส่วนตัวยอมรับว่าด้วย Mello เป็นแพลตฟอร์มเดียวที่สามารถรับชมละครบุพเพสันนิวาสแบบย้อนหลังได้เร็วที่สุดในตอนนี้ ทำให้ Traffic ถาโถมเข้ามาที่แพลตฟอร์มเป็นจำนวนมาก และกลายเป็นความท้าทายของเราในการรับมือกับตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว”  

ทั้งนี้ Mello เริ่มต้นพัฒนาขึ้นเป็นเว็บไซต์ก่อน ให้บริการมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2561 และตัวแอปพลิเคชั่นเริ่มให้บริการเมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งในเดือนนี้มีจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดที่ 1.5 ล้านคน/วัน และมียอดรับชมกว่า 180 ล้านครั้ง แบ่งเป็นกลุ่มผู้ชมอายุ 25-34 ปี 40%, 18-24 ปี (32%) และ 35-44 ปีขึ้นไป 18%

เร่งเครื่อง Original Content สร้างความแตกต่าง

ขณะเดียวกัน Mello ยังเดินหน้าพัฒนา Original Content หรือรายการ กับละครที่แพร่ภาพเฉพาะในแพลตฟอร์มเท่านั้น โดยมีทั้งลงุทนเอง และมีพาร์ทเนอร์ธุรกิจเข้ามาช่วยลงทุน ซึ่งปีนี้จะมีมากกว่า 10 รายการ ส่วนแผนรายได้ก็มีขายโฆษณากับรายการต่างๆ ในระบบ รวมถึงการร่วมผลิตกับพาร์ทเนอร์ในระยะยาว

สรุป

จากเดิมที่แพลตฟอร์ม Online ของช่องทีวีจะเป็นแค่พื้นที่รีรันละครหลังข่าว หรือรายการต่างๆ ปัจจุบันก็ต้องสร้างความแตกต่างด้วยการผลิต Original Content เข้ามาเสริม เพื่อสร้างความแตกต่าง และดึงดูดผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ ด้วย จึงเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้เห็นการเคลื่อนไหวของช่องดิจิทัลต่างๆ เพิ่มขึ้นแน่นอน ส่วนเรื่องรายได้จะเทียบเท่ากับช่องโทรทัศน์เมื่อไรนั้น ส่วนตัวคิดว่าน่าจะอีกยาวนาน หลายคนอาจจะบ่นว่าช้าไปไหม แต่มาช้าดีอาจจะกว่าไม่มา (?) ช่อง 3 เปิดตัว Video Platform บนออนไลน์ในชื่อ ‘Mello‘ อย่างเป็นทางการ รับ ‘บุพเพสันนิวาส‘ ดันแพลตฟอร์มดัง จุดกระแสทิศทางบนออนไลน์ หลังจากนี้ผันตัวเองเป็น Creator Platform เปิดโอกาสคนรุ่นใหม่ผลิตคอนเทนต์มากขึ้น แต่ลงคอนเทนต์ใน YouTube – LINE TV เหมือนเดิม เริ่มร่ายมนต์สลายคาถา ‘TV First’ ทดลองคาถา ‘Online First’ ด้วยการฉายซีรีย์เรื่องแรก 31 มีนาคมนี้

สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 แถลงข่าวในงาน ‘Mello Born This Way’ เปิดตัวแพลตฟอร์ม Video อย่างเป็นทางการ ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ดำเนินงานบริหารโดย บริษัท บีอีซีไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (BECi) ซึ่งเป็นบริษัทสื่อดิจิตอลของช่อง 3

เห็นเทรนด์ Video Content จึงเริ่มทดลองทำแพลตฟอร์มใหม่

คุณสุธิดา มาไลยพันธุ์ หัวหน้าหน่วยงานธุรกิจดิจิทัล บริษัท บีอีซีไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าถึงความเป็นมาของการพัฒนา Mello และทิศทางการให้บริการ Mello ในปี 2561

คุณสุทธิดาเล่าว่าจุดเริ่มต้นของ Mello เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2560 โดยระบุว่าช่อง 3 เห็นการเติบโตของปัจจัยภายนอก คือ ธุรกิจดิจิทัลด้าน Video Content โตขึ้นมาก ซึ่งเมื่อรวมกับปัจจัยภายในช่อง 3 ที่มีความสามารถในการผลิตคอนเทนต์เป็นทุนเดิม

อีกทั้งทางช่อง 3 แนวคิดที่ต้องการจะสร้างนวัตกรรมด้าน Online Content ด้านบันเทิง เพื่อขยายกลุ่มผู้ชมไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ในโลกออนไลน์ให้กับ BEC World และช่อง 3 จึงเริ่มทดลองทำแพลตฟอร์มขึ้นมา เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภคในฐานะ Local Publisher ก่อน โดยยอมรับว่าต้องใช้เวลาศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคนานอยู่พอสมควร

ส่วนชื่อมาจากคำว่า Mellow ซึ่งแปลว่า “กลมกล่อม” ซึ่งตรงกับคอนเซปต์ที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรกว่าเป็น “Creator Platform of Joy” หรือแพลตฟอร์มแห่งความสุขและความสนุกหลากหลายรูปแบบ ที่รวมเอาทั้งคอนเทนต์ที่สร้างจาก Creators ต่าง ๆ เอง และต้องการให้เป็นแพลตฟอร์มแห่งความบันเทิง เมื่อต้องการชื่อที่เฉพาะเจาะจง จึงออกมาเป็นดังนี้

แพลตฟอร์มเริ่มทดลองให้บริการครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 และเริ่มให้บริการเว็บไซต์เต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 และเริ่มให้ดาวน์โหลดแอปฯ ในช่วงวันที่ 17-18 มีนาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังประกาศเป็นผู้ผลิตและนำเสนอคอนเทนต์ภายใต้ คอนเซ็ปต์ “Slide of life for new generation” สะท้อนความคิดสะท้อนมุมมองและรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ จากคนรุ่นใหม่ นำเสนอแบบคนรุ่นใหม่แบบมีอิสรภาพและรับผิดชอบต่อสังคม อีกทั้งจะเป็นเวทีให้กับ Creator, พันธมิตร, ดาราดัง และดาราหน้าใหม่ได้แสดงฝีมือผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

รับ ‘บุพเพสันนิวาส’ ดัน Mello ดัง แต่หลังจากนี้จะปล่อยคอนเทนต์ใหม่มากขึ้น

ในเดือนมีนาคม 2561 คุณสุทธิดาได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม Mello ไว้ เช่น

• จำนวนผู้เข้าชมสูงสุดถึง 1.5 ล้านคนต่อวัน
• ยอดการชมวิดีโอกว่า 180 ล้านครั้งภายในเดือนมีนาคม (ซึ่งยังไม่จบเดือน)
• ด้วยเข้าครองใจผู้รักความบันเทิงออนไลน์ทั้งชายและหญิงในกลุ่มอายุ 25-34 ปี (40%) มากที่สุด รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 18-24 ปี (32%) และ 35-44 (18%) ตามลำดับ
• แต่ถ้าดูเพศของผู้ชมเว็บไซต์ Mello จะพบว่ามีผู้หญิง (76%) ดูมากกว่าผู้ชาย (24%)

โดยยอมรับว่า ‘บุพเพสันนิวาส’ มีส่วนทำให้ Mello เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการเรียนรู้ทั้งในคอนเทนต์และแพลตฟอร์มของช่อง 3 มากขึ้น แต่จริง ๆ ทั้งหมดยังไม่ใช่เป้าหมายสำคัญ แต่เป้าสำคัญจริง ๆ คือการสร้าง Creator Platform และการสร้างรายการเพื่อคนออนไลน์

อ่านเพิ่มเติม ประวัตินารูโตะ Jokergame Joker Gamimg pg slot สล็อต slot

Last Update : 7 พฤษภาคม 2021